วันอาทิตย์ที่ 22 กรกฎาคม พ.ศ. 2561

มาดู มาดู คุณหมอ!!!!


มาดู    มาดู   คุณหมอ!!!!!!


           สวัสดีค่ะทุกคน !!!!! กลับมาเจอกับเปียคนสวยคนเดิมเช่นเคย  555555 วันนี้นะค่ะ เราก็จะมาถามเพื่อนๆกับอาชีพที่เพื่อนๆอยากจะเป็นในอนาคตกัน พอพูดไปก็นึกถึงตอนที่เรายังเด็กๆกันอยู่ ไม่รู้ว่าผู้ใหญ่เขาจะถามอะไรเรานักหนา 5555555 ถามอยู่นั่นแหละว่าอยากเป็นอะไร ตอนนั้นเรายังเด็กก็ตอบไปแบบบราๆๆ 5555 แต่ตอนนี้นะค่ะ เราก็มีความฝันที่แน่นอนแล้วว่า เราอยากเป็นอะไร เราอยากเป็นหมอออออออ   55555555 
 วันนี้เราก็เลยจะมาแนะแนวทางแห่งการเป็นหมอ สำหรับคนที่มีอาชีพที่ใฝ่ฝันอยากเป็นหมอกันนะค่ะ ว่าจะมีแนวทางอย่างไรบ้างไปชมกันเลยยยยย






อันดับแรก  
 เลยนะค่ะ เราจะต้องแน่ใจก่อนว่า อาชีพที่เราจะเป็น เรามั่นใจแล้วว่าเราไปกับมันได้ เราเรียนกับมันแล้วมีความสุข ถ้าเราเรียนกับมันแล้วมีความสุข ถึงเนื้อหาจะยากแค่ไหน แต่ถ้าเรามีใจรักแน่นอนว่าเราจะต้องทำมันได้ออกมาดีแน่นอนคะ




อันดับที่สอง   

จะกล่าวถึงการสอบเข้าในคณะแพทย์ ว่าจะต้องใช้คะแนนใดบ้างในการสอบเข้า และการสอบเข้าคณะแพทย์มีวิธีการสอบอย่างไรบ้าง เชิญชมได้ดังนี้ค่ะ

1.             รับตรง หมายถึง ข้อสอบจะเป็นของแต่ละมหาวิทยาลัยซึ่งเขาจะเป็นผู้ออกเอง การเลือกในระบบรับตรงโควตาจะต่างจากแอดมิดชั่น (Admission) คือ รับตรงจะเลือกได้สูงสุด 2 คณะในแต่ละมหาวิทยาลัย แต่มีสิทธิ์เลือกได้ 4 อันดับ แต่แอดมิดชั่นจะเลือกได้ 4 อันดับ มหาวิทยาลัยใดก็ได้คณะใดก็ได้

2.             กสพท. (กลุ่มสถาบันแพทยศาสตร์แห่งประเทศไทย)
จะเริ่มต้นรับสมัครประมาณเดือนสิงหาคม
คะแนนที่ใช้ก็แบ่งออกเป็น สัดส่วน 70 : 30 คือ

วิชาสามัญ 70%
วิชาความถนัดแพทย์ 30%

วิทย์ 40%
·       วิชาที่สอบวิชาแรก คือ ความถนัดแพทย์ จะสอบตอนประมาณสิ้นเดือนตุลาคม ส่วนวิชาสามัญสอบเดือนมกราคม ประกาศผลก็ กุมภาพันธ์
คณิต 20%
อังกฤษ 20%
ไทย 10 %
สังคม 10%

อันดับที่สาม   


เราก็จะมากล่าวถึงเพื่อนๆหลายคนที่น่าจะทราบแล้วใช่ไหมค่ะว่า เรียนแพทย์ต้องเรียนด้วยกันถึง 6 ปีเลยทีเดียว ซึ่งในแต่ละปีก็จะเรียนในเนื้อหาที่ต่างกันออกไป ดังนี้ค่ะ


ปี 1 ปรับพื้นฐาน
ในช่วงนี้ทุกๆมหาวิทยาลัยจะใช้ช่วงนี้ เพื่อปรับสภาพจิตใจ และปรับเนื้อหาของนักศึกษาเพี่อเตรียมพร้อมสู่การเรียน ซึ่งในปี 1 นี้เนื้อหาที่เรียนก็จะยังเบาๆอยู่นะค่ะ เราก็จะเรียนแบบสบายๆขนมๆกัน




ปี 2 สวัสดิพรีคลินิก หรือ การทำงานของร่างกายในภาวะปกติ
ช่วงปี 2 นักศึกษาแพทย์ทุกคนจะได้เรียนกับอาจารย์ใหญ่ ซึ่งแรกๆทุกคนก็ต้องมีกลัวๆกันบ้างแหละคิดว่านะ 55555 แต่เรียนไปก็คงจะชินเอง ส่วนวิชาที่เรียนก็จะเรียนจำพวก ระบบร่างกาย เช่น ระบบปราสาท ระบบไหลเวียนเลือด กายวิภาค สรีรวิทยา พันธุศาสตร์ เป็นต้น

ปี 3 ความผิดปกติของร่างกาย
นักศึกษาแพทย์จะเรียนรู้เกี่ยวกับสิ่งที่ทำให้ร่างกายอ่อนแอ หรือผิดปกติไป ก็คือ จะเรียนในเรื่อง หลักภูมิคุ้มกันวิทยา ปรสิตวิทยา พยาธิทั่วไป เวชศาสตร์ชุมชนแล้วก็เภสัชวิทยาแบบพื้นฐานค่ะ





ปี 4 การก้าวไปสู่การทำงานชั้นคลินิก
ปีนี้เห็นเขาบอกกันว่า พวกพี่ๆจะเริ่มเรียนรู้การปฏิบัติงาน โดยการตรวจคนไข้จริงๆ ที่โรงพยาบาลกันแล้ว โดยไม่มีการปิดเทอมเลย พวกพี่ๆเขาจะทำงานวนไปตามวอร์ดต่างๆจนครบ แน่นอนว่าจะต้องนอนดึกตื่นเช้าแน่   อิอิอิอิ




ปี 5 ก้าวสู่การลงมือ
ปีนี้เกือบจบแล้ว เย้ๆๆ !!!!!!  ใกล้จบแล้วมันก็ต้องฮาร์ดคอร์กันหน่อย5555 ก็คือ พี่ๆรุ่นนี้อาจจะมาถึงวอร์ดตอนตี 4 จากที่เคยมาตอนปี 4  คือ 7 โมงเช้า แล้วอาจจะทำงานจนโต้รุ่งถึงอีกวันก็ได้ ซึ่งพี่ๆเขาจะมีส่วนร่วมที่มากขึ้นในการทำงาน เช่น วินิจฉัยร่วมกับอาจารย์ เย็บแผล ช่วยทำคลอด แล้วอย่าลืม ต้องจดเล็คเชอร์ด้วยนะ 55555





ปี 6 ช่วงชีวิต EXTERN
นี้คือ จบแล้ว OMG!!!!!! 555555 พี่ๆรุ่นนี้ ก็จะสามารถรักษาคนไข้ได้แล้วหลังจากที่เรียนมา 5 ปี  และก็จะมีการออกไปเป็นหมอในโรงพยาบาลต่างจังหวัดด้วย     

และนี่นะค่ะก็คือข้อมูลที่เรารวบรวมมาให้เพื่อนๆได้ศึกษากัน เพื่อเป็นการเตรียมตัวให้กับตัวเองในการสอบเข้ามหาวิทยาลัยอีกด้วย สุดท้ายนี้ ก็ขอให้เพื่อนๆทุกคนโชคดี เข้ามหาวิทยาลัยที่ตัวเองต้องการได้น่ะค่ะ สู้ๆ

















ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

การศึกษาต่อคณะแพทยศาสตร์             สวัสดีเพื่อนๆที่น่ารักทุกคน วันนี้เราก็กลับมาพบกันเช่นเคย   ซึ่งวันนี้เปียก็มีเรื่องมาเล่า หรือว่า...