วันจันทร์ที่ 17 กันยายน พ.ศ. 2561


การศึกษาต่อคณะแพทยศาสตร์

            สวัสดีเพื่อนๆที่น่ารักทุกคน วันนี้เราก็กลับมาพบกันเช่นเคย  ซึ่งวันนี้เปียก็มีเรื่องมาเล่า หรือว่ามาแนะนำให้เพื่อนๆทุกๆคนได้รับฟังกันด้วย ตามที่เพื่อนๆได้อ่านหัวข้อของเราไป แน่นอนค่ะ วันนี้เราก็จะมีข้อมูลมาแนะนำเกี่ยวกับอาชีพ แพทย์ ให้ทุกๆคนได้ทราบ เพื่อเพื่อนของเราเนี่ยจะได้นำข้อมูลไปใช้ในการศึกษาต่อกันค่ะ

            ซึ่งข้อมูลที่เราจะนำมาให้เพื่อนๆอ่านเกี่ยวกับอาชีพแพทย์ มีดังนี้

1.            การเตรียมตัวที่จะสอบเข้ามหาวิทยาลัย

2.            มหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงด้านการแพทย์

3.            หลักสูตรการเรียนแพทย์

4.            จบแล้วทำงานด้านไหนบ้าง

และนี้ก็เป็นลำดับข้อมูลซึ่งทำขึ้นเพื่อให้เพื่อนๆได้อ่าน และได้ศึกษา หากเพื่อนๆพร้อมแล้ว ไปอ่านกันเลย!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!
 

1. การเตรียมตัวที่จะสอบเข้ามหาวิทยาลัย

1.1 )   สอบข้อสอบใดบ้าง

            ตามที่เราได้ไปหาข้อมูลมานะค่ะ แต่ล่ะมหาวิทยาลัยเนี่ยก็จะใช้คะแนนสอบที่แตกต่างกันออกไป ขึ้นอยู่กับเกณฑ์ที่ทางมหาวิทยาลัยตั้งขึ้นค่ะ แต่ส่วนใหญ่แล้วก็จะมีเกณฑ์ที่คล้ายๆกันบ้าง ดังนี้ค่ะ

-    เกรดเฉลี่ยทั้ง GPAX และ GPA ควรมากกว่า 3.00
-   สอบ BMAT (Biomedical admission test คือ ข้อสอบเฉพาะผู้ที่ต้องการเข้าศึกษาต่อสาขาแพทย์ สัตวแพทย์ จัดทำโดย Cambridge Assessment แห่งสหราชอาณาจักร)
-   ผลสอบภาษาอังกฤษ เช่น TOFLE, IELTS , CU-TEP , TU-GET, CMU-eTEG
-   ผลสอบ GAT , PAT1 , PAT2
-   ผลสอบวิชาสามัญ 7 วิชาหลัก
-   ผลสอบ O-NET
-   วิชาเฉพาะแพทย์ คือ กสพท.
-   Portfolio
-  การสอบสัมภาษณ์ ทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ
       และนี่ก็เป็นข้อมูลที่เปียหามาได้นะค่ะ บอกเลยว่าเป็นข้อมูลที่อัปเดตสุดๆไปเลย เพราะเป็นข้อมูลการสอบเข้าในระบบ TCAS 61 เลยนะค่ะ
 
 
1.2)  จะต้องมีความรู้เกี่ยวกับเรื่องใดบ้าง
            ความรู้ที่เราจะมีไปสอบนะค่ะ ก็ได้แก่ คณิตศาสตร์ ภาษาไทย ภาษาอังกฤษ สังคมศึกษา ฟิสิกส์ เคมี ชีววิทยา ตามข้อมูลที่เปียได้บอกไปข้างต้นเลย ว่าเราจะสอบข้อสอบใดบ้าง ซึ่งเปียก็มีข้อมูลเพิ่มเติมให้ค่ะ
-  GPAX คือ ผลการเรียนหรือเกรดเฉลี่ยของทุกวิชาที่ได้เรียนมา ซึ่งเป็นเกรดเฉลี่ยทุกเทอม
-    GPA   คือ ผลการเรียนสะสมของผู้เรียนที่ได้เรียนมาตลอดหลักสูตรของชั้นมัธยมศึกษาตอนปลายปีที่ 4-6
-    GAT    คือ การทดสอบวิชาความถนัดทั่วไป มี 2 ส่วน คือ
            1.ความสามารถในการอ่าน เขียน การคิดเชิงวิเคราะห์ และการแก้โจทย์ปัญหา
            2.ความสามารถในการสื่อสารด้วยภาษาอังกฤษ
-   PAT1  คือ ข้อสอบความถนัดด้านคณิตศาสตร์
-    PAT2  คือ ข้อสอบความถนัดด้านวิทยาศาสตร์ ได้แก่ ชีววิทยา เคมี ฟิสิกส์ โลกและดาราศาสตร์
 
อ่านๆไปแล้วก็มึนๆเหมือนกันนะค่ะเนี่ย 555555 ไม่เป็นไรค่ะเราจะสู้ไปด้วยกัน งั้นเราไปอ่านข้อมูลกันต่อเล้ยยยย
 
2. มหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงด้านการแพทย์
              สำหรับการเลือกเข้ามหาวิทยาลัยนะค่ะ บางท่านอาจเลือกจากความชอบหรือความสนใจเฉพาะตัวของผู้สอบเข้ามหาวิทยาลัยเอง หรือบางท่านอาจเลือกจากประสิทธิภาพในการสอนของมหาวิทยาลัย นั่นเองค่ะ แต่เปียของบอกไว้เลยว่า แต่ล่ะมหาวิทยาลัยเนี่ยมีประสิทธิภาพดีแน่นอนค่ะ ขึ้นอยู่กับว่าเราจะเข้าใจในเนื้อหาที่เขาสอนหรือไม่เท่านั้นเอง ซึ่งเปียก็ยกตัวอย่างมา 3 มหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงด้านการแพทย์ ดังนี้ค่ะ
2.1 ) จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
        จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ถูกจัดอันดับให้เป็นมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงด้านการแพทย์อันดับที่ 50  ของเอเชีย จากเว็บไซต์ Topuniversities.com  และอยู่ในอันดับที่ 1 ของประเทศไทย ซึ่งเป็นมหาวิทยาลัยระดับดีเลิศทั้งในด้านการเรียนการสอนและการวิจัย
 
 
2.2 ) มหาวิทยาลัยมหิดล
            จากเว็บไซต์ Topuniversities.com  มหาวิทยาลัยมหิดลอยู่อันดับที่ 58 ของเอเชีย แต่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในสาขาวิทยาศาสตร์สุขภาพ เช่น แพทยศาสตร์ ทันตแพทยศาสตร์ เภสัชศาสตร์ พยาบาลศาสตร์ เทคนิคการแพทย์ กายภาพบำบัด สาธารณสุขศาสตร์ โดยมหาวิทยาลัยมหิดลเป็น 1 ใน 9 มหาวิทยาลัยวิจัยแห่งชาติ และเป็นสมาชิกเครือข่ายมหาวิทยาลัยอาเซียน (AUN)
 
2.3 ) มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ( ท่าพระจันทร์ )
         ปัจจุบันมีการจัดการศึกษาที่ครอบคลุมทั้งด้านวิทยาศาสตร์สุขภาพ    ซึ่งประกอบด้วย 19 คณะ 4 วิทยาลัย 1 สถาบัน 1 สำนักวิชา และมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ก็ยังเป็น 1 ใน 9 มหาวิทยาลัยวิจัยแห่งชาติอีกด้วย
ฟังข้อมูลกันไปแล้วเนี่ยก็ทำเอาเปียงงไปเลยค่ะ ว่าพี่ๆเขากินอะไรทำไมเก่งขนาดนี้ 5555555

3. หลักสูตรของการศึกษาแพทย์
 หลักสูตรในการศึกษาแพทย์นะค่ะ เปียก็เคยได้หาข้อมูลไว้แล้วในบล็อกที่ผ่านมานะค่ะ ซึ่งในแต่ละปีก็จะเรียนในเนื้อหาที่ต่างกันออกไป ดังนี้ค่ะ


ปี 1 ปรับพื้นฐาน
ในช่วงนี้ทุกๆมหาวิทยาลัยจะใช้ช่วงนี้ เพื่อปรับสภาพจิตใจ และปรับเนื้อหาของนักศึกษาเพี่อเตรียมพร้อมสู่การเรียน ซึ่งในปี 1 นี้เนื้อหาที่เรียนก็จะยังเบาๆอยู่นะค่ะ เราก็จะเรียนแบบสบายๆขนมๆกัน
 

 
ปี 2 สวัสดิพรีคลินิก หรือ การทำงานของร่างกายในภาวะปกติ
ช่วงปี 2 นักศึกษาแพทย์ทุกคนจะได้เรียนกับอาจารย์ใหญ่ ซึ่งแรกๆทุกคนก็ต้องมีกลัวๆกันบ้างแหละคิดว่านะ 55555 แต่เรียนไปก็คงจะชินเอง ส่วนวิชาที่เรียนก็จะเรียนจำพวก ระบบร่างกาย เช่น ระบบปราสาท ระบบไหลเวียนเลือด กายวิภาค สรีรวิทยา พันธุศาสตร์ เป็นต้น

ปี 3 ความผิดปกติของร่างกาย
นักศึกษาแพทย์จะเรียนรู้เกี่ยวกับสิ่งที่ทำให้ร่างกายอ่อนแอ หรือผิดปกติไป ก็คือ จะเรียนในเรื่อง หลักภูมิคุ้มกันวิทยา ปรสิตวิทยา พยาธิทั่วไป เวชศาสตร์ชุมชนแล้วก็เภสัชวิทยาแบบพื้นฐานค่ะ
 
 
ปี 4 การก้าวไปสู่การทำงานชั้นคลินิก

ปีนี้เห็นเขาบอกกันว่า พวกพี่ๆจะเริ่มเรียนรู้การปฏิบัติงาน โดยการตรวจคนไข้จริงๆ ที่โรงพยาบาลกันแล้ว โดยไม่มีการปิดเทอมเลย พวกพี่ๆเขาจะทำงานวนไปตามวอร์ดต่างๆจนครบ แน่นอนว่าจะต้องนอนดึกตื่นเช้าแน่   อิอิอิอิ
 
 
ปี 5 ก้าวสู่การลงมือ
ปีนี้เกือบจบแล้ว เย้ๆๆ !!!!!!  ใกล้จบแล้วมันก็ต้องฮาร์ดคอร์กันหน่อย5555 ก็คือ พี่ๆรุ่นนี้อาจจะมาถึงวอร์ดตอนตี 4 จากที่เคยมาตอนปี 4  คือ 7 โมงเช้า แล้วอาจจะทำงานจนโต้รุ่งถึงอีกวันก็ได้ ซึ่งพี่ๆเขาจะมีส่วนร่วมที่มากขึ้นในการทำงาน เช่น วินิจฉัยร่วมกับอาจารย์ เย็บแผล ช่วยทำคลอด แล้วอย่าลืม ต้องจดเล็คเชอร์ด้วยนะ 55555
 
 
ปี 6 ช่วงชีวิต EXTERN
นี้คือ จบแล้ว OMG!!!!!! 555555 พี่ๆรุ่นนี้ ก็จะสามารถรักษาคนไข้ได้แล้วหลังจากที่เรียนมา 5 ปี  และก็จะมีการออกไปเป็นหมอในโรงพยาบาลต่างจังหวัดด้วย     

และนี่นะค่ะก็คือข้อมูลที่เรารวบรวมมาให้เพื่อนๆได้ศึกษากัน เพื่อเป็นการเตรียมตัวให้กับตัวเองในการสอบเข้ามหาวิทยาลัยอีกด้วย สุดท้ายนี้ ก็ขอให้เพื่อนๆทุกคนโชคดี เข้ามหาวิทยาลัยที่ตัวเองต้องการได้น่ะค่ะ สู้ๆ
 
 
 
4. จบแล้วทำงานด้านไหน
  สำหรับเปียนะค่ะก็เคยสงสัยว่า พี่ๆที่เรียนจบหมอแล้วเนี่ยจะทำงานเกี่ยวกับด้านนี้ไปเลยไหม แต่ก็มีบางคนนะค่ะที่ออกมาทำงานเกี่ยวกับธุรกิจส่วนตัว เช่น ช่วยคุณพ่อคุณแม่ทำกิจการส่วนตัวค่ะ  แต่ส่วนใหญ่แล้วพี่ๆเขาก็จะทำงานเกี่ยวกับด้านการแพทย์ไปเลยค่ะ เนื่องจากเราตัดสินใจที่จะเรียนไปแล้ว ร่วมกับอาชีพนี้ใช้เวลาในการศึกษาค่อนข้างนานค่ะ จะมีส่วนน้อยที่ออกมาจากวงการแพทย์มาทำกิจการส่วนตัว หรืออาจมีอีกประเภทค่ะ ที่ทำอาชีพแพทย์ไปพร้อมๆกับอาชีพอื่นๆเช่น หมอก้อง สรวิชญ์ สุบุญ  ซึ่งเป็นแพทย์ทหาร พร้อมกับเป็นดารานักแสดงด้วยค่ะ จึงสามารถสรุปได้ว่า
1.  ประกอบอาชีพแพทย์โดยตรง
2.   กลับไปช่วยกิจการของครอบครัวหรือกลับไปประกอบกิจการเอง โดยไม่เกี่ยวข้องด้านการแพทย์อีก
3.    ประกอบอาชีพแพทย์ไปพร้อมๆกับอาชีพที่ตนเองชอบ
 
5. ประวัติผู้จัดทำ
 
                                                          ประวัติของผู้จัดทำ
                              ชื่อ นางสาวก้อนทอง   นามสกุล    แก้วพิลา 
                              เลขที่ 10                       ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5/2      
                              ชื่อเล่น เปีย                   อายุ 17 ปี
                               ศึกษาที่ โรงเรียนดอนเมืองทหารอากาศบำรุง
 
6. แหล่งสืบค้นข้อมูล
และเปียก็ขอขอบคุณแหล่งข้อมูลต่างๆที่ไม่ได้ปรากฏในนี้ด้วยนะค่ะ
สำหรับเพื่อนๆที่ได้อ่านข้อมูลไป อาจตกใจว่าทำไมเรียนหนักจัง แต่ไม่เป็นไรค่ะเราชื่นชอบในสิ่งนี้ และขอให้เพื่อนๆทุกคนสู้ๆน่ะค่ะ แล้วพบกันไหมครับผม........
 
 
 
 
 
 
 
 
 

 

 
 

วันอาทิตย์ที่ 22 กรกฎาคม พ.ศ. 2561

มาฝึกวิจารณ์ขอรับ

      สวัสดีเพื่อนๆทุกคน วันนี้ก็กลับมาเจอกับเปียอีกครั้งน่ะ วันนี้เปียก็ไม่มีเรื่องที่จะมาเล่า แต่วันนี้เปียจะมาเป็นผู้วิจารณ์บทความของผู้อื่น ซึ่งผู้อื่นในที่นี้ก็ไม่ใช่คนอื่นคนไกลแต่อย่างใด เขาคือ.....เพื่อนร่วมชั้นกับเปียเอง โดยวันนี้เนี่ยเปียก็จะมาวิเคราะห์บทความของเพื่อนเลือกเอามาสัก 3 คน เรามาดูกันเลยว่าบทความที่เพื่อนเขียนเนี่ยจะเป็นไงกันบ้าง มาดูกันเลย!!!!!!
         คนที่1. (รีวิว) วังน้ำเขียว แต่น้ำใส
สำหรับคำวิจารณ์ คนแรก เปียคิดว่าเขาเป็นคนที่เรียบเรียงถ้อยคำ หรือว่า การลำดับขั้นตอนเนี่ยได้ดีมาก พอเราอ่านไปเรื่อยๆ จะรู้สึกเพลิดเพลินไปกับคำบรรยายที่เพื่อนเขียน จนกระทั่งรวมไปถึงรูปภาพที่แสนจะน่ารักก็ทำให้คนอ่านมีความสุข และมีรอยยิ้มไปกับการอ่านบล็อกได้ ซึ่งบล็อกของเพื่อนจากที่เราเห็นได้ในรูป คือ รูปภาพเพื่อนสื่อได้ดีมาก เป็นภาพการรวมญาติที่ดูแล้วเเสนจะอบอุ่นเลยก็ว่าได้
สรุปเลยว่า เพื่อนคนที่1 มีการเรียงคำหรือการใช้ถ้อยคำได้ดี ภาพโดดเด่นเเสดงออกมาได้อย่างชัดเจน

https://teawdeemeesuke.blogspot.com/?m=1
นี่ก็เป็นลิงค์ของเพื่อนคนที่ 1 น่ะ ใครอยากอ่านเชิญอ่านได้เลยคราบ

          คนที่2. (รีวิว)เที่ยวสวนผึ้ง 1วันปะทะหน้าร้อน!
ต่อมาคนที่ 2 คนนี้เป็นคนที่เฮฮามากเวลาอยู่ที่ห้อง เปียจะอ่านของเพื่อนดูสิ เพื่อนจะเขียนออกมาฮาเหมือนที่อยู่ในห้องรึป่าว พ่าม พ่าม คือ....พูดไม่ออก 55555เพื่อนใช้คำกึ่งทางการน่ะ แต่ว่าเข้าใจง่ายแถมเพื่อนยังคงความเป็นตัวเองอีกด้วย อ่านๆไปเรื่องก็ยิ่งสนุก แล้วมีการใช้คำที่แบบว่า มีจังหวะจะโคน ให้คนอ่านตกใจเล่นๆ 5555555 และเพื่อนก็เก็บบรรยากาศหรือ รูปภาพเอามาฝากคนอ่านได้เยอะมากๆ แค่ดูรูปก็เหมือนกับเปียเคยไป ทั้งที่ยังไม่เคยไปเลย
สรุปก็คือ เพื่อนคนที่2 มีการใช้คำให้คนอ่านบล็อกเข้าถึงอารมณ์ได้อย่างชัดเจน และยังคงความเป็นตัวเองไว้เสมอ อาจจะมีการตลกๆบ้าง สิ่งนี้แหละที่ทำให้คำอ่านบล็อกสนุกและมีความสุขสุดๆเลย

https://travelanook.blogspot.com/2018/07/1-google-scenery-vintage-farm-06.html?m=1
อันนี้คือ ลิงค์ของเพื่อนคนที่2 น่ะ เชิญอ่านได้คราบ ไม่คิดตังค์
 
        คนที่3.ต้องปิดฉากด้วยคนที่เด็ดที่สุด 5555
รีวิวเที่ยวหาดนางรำ อำเภอ สัตหีบ จังหวัด ชลบุรี
คนนี้บอกเลยเด็ดมาก  คำวิจารณ์ คือ....................
เพื่อนมีการอธิบาย หรือว่าการบอกลำดับขั้นตอนที่ดี ว่าเราจะไปเที่ยวที่นี่  เราจะต้องทำอย่างไรบ้าง อย่างเช่น ศึกษาเส้นทาง ซึ่งเพื่อนแนะนำให้กับเราได้ดีมาก แถมยังบอกร้านอาหารอร่อยๆเยอะแยะอีกด้วย อ่านไปนี่เปียท้องร้องหิวข้าวเลย 55555 และเพื่อนก็ใช้คำที่เป็นตัวเอง อ่านแล้วเป็นธรรมชาติ ดูไม่ขัดอะไร สรุปคือ เพื่อนคนที่ 3 มาเเนวแปลกคือ แนะนำเส้นทางให้เรารู้ก่อนว่าจะไปเที่ยวได้ยังไง เปียว่าเข้าท่าดี เพราะถ้าเรารู้ว่าเราจะไปเที่ยวนี่ เส้นทางเป็นยังไง จะได้เตรียมตัวถูก นี่คือ ความเเตกต่างที่ลงตัว และเพื่อนก็ยังใช้คำที่เป็นธรรมชาติเเสดงถึงความเป็นตัวเองออกมาผ่านทางการเขียนบล็อกได้ดีสุดๆไปเลย
http://missbatza.blogspot.com/2018/07/2-1.html?m=1
นี่ก็เป็นลิงค์ของเพื่อน คนที่ 3 เข้ามาอ่านกันได้น้าา

ทุกคนที่อ่านจะเห็นว่าทำไมเปียไม่เอารูปโชว์บ้างอาจจะเป็นสถานที่ท่องเที่ยวของเพื่อนไรงี้ คือ เปีย อยากให้ทุกๆคนลองเข้าไปอ่าน ว่าสิ่งที่เปียวิจารณ์มันจริงรึป่าวน้า  หรือว่าอะไรยังไง  บางทีเราอาจจะเจอที่เที่ยวสวยๆเพิ่มเติมก็ได้  สุดท้ายนี้ก็ขอขอบคุณทุกๆคนที่มาอ่านบล็อกของเปียด้วย ขอบคุณมากๆจริงๆ ไว้โอกาศหน้า พบกันใหม่ บ้ายๆๆๆ
         

ARMY ที่รัก


ARMY ……..  ที่รัก


   
          สวัสดีเพื่อนๆที่น่ารักทุกคนกลับมาเจอกันอีกแล้ว  วันนี้เปียก็จะมาเล่าประสบการณ์ตลกๆให้ฟัง  เรื่องมันมีอยู่ว่า  เปียมีเพื่อนคนหนึ่ง  เขาเป็นคนที่บ้าวงเกาหลีวงหนึ่งมาก เห็นอะไรที่เกี่ยวกับวงเกาหลีที่มันชอบไม่ได้  มันจะซื้อไปหมด55555 วันนั้นเป็นวัน Open House ของโรงเรียน ก็จะมีร้านต่างๆเข้ามาขายของ ส่วนใหญ่ก็เป็นของที่เกี่ยวกับ K-POP น่ะ เราเห็นมันซื้อของ   เราก็ถามมันไปว่า  ไม่กลัวเปลืองตังค์อ่อ  เท่านั้นแหละมันก็หันมาตอบว่า  อ่อไม่เป็นไร ตังค์อันเนี่ยเขาเป็นคนเก็บเงินเอง โถ้!!!ตกใจหมดนึกว่าจะโดนด่า  5555555  ประเด็นคือ อยู่ดีๆเปียก็ดันไปชอบวงเกาหลีวงที่เพื่อนเปียชอบ คือ ไม่น่าไปว่ามันว่าบ้าผู้ชายเล้ย  555555ดันมาเป็นซะเอง 
                แต่ก็ต้องขอบคุณเพื่อนจริงๆ 555555 เพราะวงนี้เป็นวงที่ เพลงก็เพราะ นักร้องก็หน้าตาดี  แต่อาจจะขี้แกล้งกันไปหน่อย วงนี้ก็คือ  BTS !!!!!!!! เฉลยซะที

                ฉะนั้น วันนี้เปียก็เลยจะมานำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับวงนี้กัน  (หากข้อมูลไหนผิดพลาดไป ก็ขออภัยชาวARMY ด้วยน้า) เชิญชมกันเลย 



           1.     ชื่อวง
BTS ย่อมาจาก Bangtan Boys หรือ บังทันโซยอนดัน ที่หมายถึง เสื้อเกราะกันกระสุน ซึ่งแปลว่า เหล่าเด็กชายผู้กีดขวางการกดขี่และการมีอคติ และได้มีชื่อใหม่ทางภาษาอังกฤษ จึงมีความหมายเพิ่มขึ้นมาว่า วัยรุ่นผู้พัฒนาสู่ความใฝ่ฝันอย่างไม่หยุดยั้งและไม่ยึดติดกับสถานภาพปัจจุบัน
และพี่เขามีการเปลี่ยนโลโก้ของวงด้วยน้า



          2.ชื่อแฟนคลับ
ชื่อแฟนคลับ ก็คือ  ARMY ซึ่งแปลว่าทหาร เพราะว่า ทหารกับเสื้อเกราะเนี่ยเป็นของคู่กัน

          3. การเข้าเป็นสมาชิกวง (เรียงว่าใครเข้าก่อนน่ะ)





การเข้าสู่วงการ : พี่ม่อนเป็นเเร็ปเปอร์ใต้ดิ้นเเละได้เข้าร่วมโครงการฮิปฮอปของบังทันบอยส์
ชื่อ : คิม นัมจุน (Kim Nam Joon )หรือ เเรพ มอนสเตอร์
ตำแหน่ง : หัวหน้าวงและเเร็ปเปอร์หลัก
วันเกิด :    12 กันยายน 1994
บ้านเกิด : อิลซาน จังหวัดคยองกี


การเข้าสู่วงการ : พี่ก้าเป็นเเร็ปเปอร์ใต้ดินที่เมืองแทกู และออดิชั่นผ่าน Hit It
ชื่อ: มิน ยุนกิ (Min Yoon Gi) หรือ ชูก้า
ตำแหน่ง : แร็บเปอร์หลัก 
วันเกิด  :   9 มีนาคม 1993
บ้านเกิด :  แทกู

การเข้าสู่วงการ : พี่โฮปเข้ามาทางสายการเต้นโดยเฉพาะเลย จะเห็นว่าพี่เขาไปประกวดเต้นหลายเวทีมากๆ
ชื่อ : ชอง โฮซอก ( Jung Ho Seok) หรือ เจโฮป
ตำแหน่ง : นักเต้นนำและแร็ปเปอร์หลัก
วันเกิด :    18 กุมภาพันธ์ 1994
บ้านเกิด:   ควังจู



การเข้าสู่วงการ : พี่เขาได้เเคสติ้งตอนที่กำลังเดินทางไปโรงเรียน ( โอ้โหนี่ไปโรงเรียนน่ะเนี่ยอะไรจะขนาดนั้น55555)
ชื่อ  : คิม ซอกจิน (Kim Seok Jin ) หรือ จิน
ตำแหน่ง : นักร้องเสริม และภาพลักษณ์ คือ พี่ใหญ่
วันเกิด :    4 ธันวาคม 1992
บ้านเกิด :  กวาชอน จังหวัดคยองกี


การเข้าสู่วงการ : พี่กุกเข้าไปประกวดรายการSuperstar K หลังจากประกวดจบรายการ ก็มาหลายบริษัทเข้ามาติดต่อ แต่พี่แกเลือก Big Hit เพราะ ติดใจการเเร็ปของพี่ม่อน55555
ชื่อ: จอน จองกุก (Jeon Jeong-guk) หรือ จองกุก
ตำแหน่ง : นักร้องเสียงหลัก นักเต้นนำ แร็ปเปอร์เสริม และเป็นน้องเล็กครับผม
วันเกิด :    1 กันยายน 1997
บ้านเกิด :  ปูซาน

การเข้าสู่วงการ : พี่แทเขาไปออดิชั่นแบบปิดของBig Hit ที่แทกู ตามเพื่อน55555
ชื่อ : คิม แทฮยอง (Kim Tae Hyung)หรือ วี
ตำแหน่ง : นักร้องนำ และภาพลักษณ์ ของวง เพราะพี่เขาหล่อคราบบบบ
วันเกิด :    30 ธันวาคม 1995
บ้านเกิด :  แทกู


การเข้าสู่วงการ : พี่จีมินเข้ามาทดสอบความสามารถตามที่ครูสอนเต้นแนะนำ (เด็กดีอ่า5555)
ชื่อ : ปาร์ค จีมิน ( Park Jimin) หรือ จีมิน
ตำแหน่ง : นักเต้นนำและนักร้องนำ
วันเกิด :    13 ตุลาคม 1995
บ้านเกิด : ปูซาน

            และนี่ก็เป็นข้อมูลเเบบคร่าวๆหรือว่าเบื้องต้นนั้นเองสำหรับเหล่า ARMY ทุกๆคน สุดท้ายก็อยากจะบอกว่า  เมื่อไหร่ BTS จะมาจัดคอนเสริต์ที่ไทยอีกอยากไป!!!!!!55555555 เพราะว่ามันสนุกมากๆๆๆๆ ก.ไก่ ล้านตัว แล้วก็แบบเขินๆด้วยเอาง่ายๆคือ ฟินนี้เอง 55555











การศึกษาต่อคณะแพทยศาสตร์             สวัสดีเพื่อนๆที่น่ารักทุกคน วันนี้เราก็กลับมาพบกันเช่นเคย   ซึ่งวันนี้เปียก็มีเรื่องมาเล่า หรือว่า...