การศึกษาต่อคณะแพทยศาสตร์
สวัสดีเพื่อนๆที่น่ารักทุกคน
วันนี้เราก็กลับมาพบกันเช่นเคย
ซึ่งวันนี้เปียก็มีเรื่องมาเล่า
หรือว่ามาแนะนำให้เพื่อนๆทุกๆคนได้รับฟังกันด้วย
ตามที่เพื่อนๆได้อ่านหัวข้อของเราไป แน่นอนค่ะ วันนี้เราก็จะมีข้อมูลมาแนะนำเกี่ยวกับอาชีพ
“แพทย์” ให้ทุกๆคนได้ทราบ
เพื่อเพื่อนของเราเนี่ยจะได้นำข้อมูลไปใช้ในการศึกษาต่อกันค่ะ
ซึ่งข้อมูลที่เราจะนำมาให้เพื่อนๆอ่านเกี่ยวกับอาชีพแพทย์
มีดังนี้
1.
การเตรียมตัวที่จะสอบเข้ามหาวิทยาลัย
2.
มหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงด้านการแพทย์
3.
หลักสูตรการเรียนแพทย์
4.
จบแล้วทำงานด้านไหนบ้าง
และนี้ก็เป็นลำดับข้อมูลซึ่งทำขึ้นเพื่อให้เพื่อนๆได้อ่าน และได้ศึกษา
หากเพื่อนๆพร้อมแล้ว ไปอ่านกันเลย!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!
1. การเตรียมตัวที่จะสอบเข้ามหาวิทยาลัย
1.1 ) สอบข้อสอบใดบ้าง
ตามที่เราได้ไปหาข้อมูลมานะค่ะ
แต่ล่ะมหาวิทยาลัยเนี่ยก็จะใช้คะแนนสอบที่แตกต่างกันออกไป ขึ้นอยู่กับเกณฑ์ที่ทางมหาวิทยาลัยตั้งขึ้นค่ะ
แต่ส่วนใหญ่แล้วก็จะมีเกณฑ์ที่คล้ายๆกันบ้าง ดังนี้ค่ะ
-
เกรดเฉลี่ยทั้ง GPAX และ GPA ควรมากกว่า 3.00
- สอบ BMAT (Biomedical admission test คือ
ข้อสอบเฉพาะผู้ที่ต้องการเข้าศึกษาต่อสาขาแพทย์ สัตวแพทย์ จัดทำโดย Cambridge
Assessment แห่งสหราชอาณาจักร)
-
ผลสอบภาษาอังกฤษ
เช่น TOFLE, IELTS , CU-TEP , TU-GET, CMU-eTEG
-
ผลสอบ GAT , PAT1 , PAT2
-
ผลสอบวิชาสามัญ 7 วิชาหลัก
- ผลสอบ O-NET
-
วิชาเฉพาะแพทย์
คือ กสพท.
-
Portfolio
- การสอบสัมภาษณ์
ทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ
และนี่ก็เป็นข้อมูลที่เปียหามาได้นะค่ะ
บอกเลยว่าเป็นข้อมูลที่อัปเดตสุดๆไปเลย เพราะเป็นข้อมูลการสอบเข้าในระบบ TCAS 61 เลยนะค่ะ
1.2)
จะต้องมีความรู้เกี่ยวกับเรื่องใดบ้าง
ความรู้ที่เราจะมีไปสอบนะค่ะ ก็ได้แก่ คณิตศาสตร์ ภาษาไทย ภาษาอังกฤษ
สังคมศึกษา ฟิสิกส์ เคมี ชีววิทยา ตามข้อมูลที่เปียได้บอกไปข้างต้นเลย
ว่าเราจะสอบข้อสอบใดบ้าง ซึ่งเปียก็มีข้อมูลเพิ่มเติมให้ค่ะ
- GPAX คือ
ผลการเรียนหรือเกรดเฉลี่ยของทุกวิชาที่ได้เรียนมา ซึ่งเป็นเกรดเฉลี่ยทุกเทอม
- GPA คือ ผลการเรียนสะสมของผู้เรียนที่ได้เรียนมาตลอดหลักสูตรของชั้นมัธยมศึกษาตอนปลายปีที่
4-6
- GAT
คือ
การทดสอบวิชาความถนัดทั่วไป มี 2 ส่วน คือ
1.ความสามารถในการอ่าน
เขียน การคิดเชิงวิเคราะห์ และการแก้โจทย์ปัญหา
2.ความสามารถในการสื่อสารด้วยภาษาอังกฤษ
- PAT1
คือ ข้อสอบความถนัดด้านคณิตศาสตร์
-
PAT2
คือ ข้อสอบความถนัดด้านวิทยาศาสตร์ ได้แก่ ชีววิทยา เคมี
ฟิสิกส์ โลกและดาราศาสตร์
อ่านๆไปแล้วก็มึนๆเหมือนกันนะค่ะเนี่ย 555555
ไม่เป็นไรค่ะเราจะสู้ไปด้วยกัน งั้นเราไปอ่านข้อมูลกันต่อเล้ยยยย
2. มหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงด้านการแพทย์
สำหรับการเลือกเข้ามหาวิทยาลัยนะค่ะ
บางท่านอาจเลือกจากความชอบหรือความสนใจเฉพาะตัวของผู้สอบเข้ามหาวิทยาลัยเอง หรือบางท่านอาจเลือกจากประสิทธิภาพในการสอนของมหาวิทยาลัย
นั่นเองค่ะ แต่เปียของบอกไว้เลยว่า
แต่ล่ะมหาวิทยาลัยเนี่ยมีประสิทธิภาพดีแน่นอนค่ะ
ขึ้นอยู่กับว่าเราจะเข้าใจในเนื้อหาที่เขาสอนหรือไม่เท่านั้นเอง
ซึ่งเปียก็ยกตัวอย่างมา 3 มหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงด้านการแพทย์
ดังนี้ค่ะ
2.1 ) จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ถูกจัดอันดับให้เป็นมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงด้านการแพทย์อันดับที่
50 ของเอเชีย
จากเว็บไซต์ Topuniversities.com และอยู่ในอันดับที่ 1 ของประเทศไทย
ซึ่งเป็นมหาวิทยาลัยระดับดีเลิศทั้งในด้านการเรียนการสอนและการวิจัย

2.2 ) มหาวิทยาลัยมหิดล
จากเว็บไซต์ Topuniversities.com มหาวิทยาลัยมหิดลอยู่อันดับที่ 58 ของเอเชีย
แต่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในสาขาวิทยาศาสตร์สุขภาพ เช่น แพทยศาสตร์
ทันตแพทยศาสตร์ เภสัชศาสตร์ พยาบาลศาสตร์ เทคนิคการแพทย์ กายภาพบำบัด
สาธารณสุขศาสตร์ โดยมหาวิทยาลัยมหิดลเป็น 1 ใน 9 มหาวิทยาลัยวิจัยแห่งชาติ และเป็นสมาชิกเครือข่ายมหาวิทยาลัยอาเซียน (AUN)
2.3 ) มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
( ท่าพระจันทร์ )
ปัจจุบันมีการจัดการศึกษาที่ครอบคลุมทั้งด้านวิทยาศาสตร์สุขภาพ ซึ่งประกอบด้วย 19 คณะ 4 วิทยาลัย 1 สถาบัน 1 สำนักวิชา
และมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ก็ยังเป็น 1 ใน 9 มหาวิทยาลัยวิจัยแห่งชาติอีกด้วย
ฟังข้อมูลกันไปแล้วเนี่ยก็ทำเอาเปียงงไปเลยค่ะ
ว่าพี่ๆเขากินอะไรทำไมเก่งขนาดนี้ 5555555
3. หลักสูตรของการศึกษาแพทย์
3. หลักสูตรของการศึกษาแพทย์
ในช่วงนี้ทุกๆมหาวิทยาลัยจะใช้ช่วงนี้ เพื่อปรับสภาพจิตใจ และปรับเนื้อหาของนักศึกษาเพี่อเตรียมพร้อมสู่การเรียน ซึ่งในปี 1 นี้เนื้อหาที่เรียนก็จะยังเบาๆอยู่นะค่ะ เราก็จะเรียนแบบสบายๆขนมๆกัน
ปี 2 สวัสดิพรีคลินิก หรือ การทำงานของร่างกายในภาวะปกติ
ช่วงปี 2 นักศึกษาแพทย์ทุกคนจะได้เรียนกับอาจารย์ใหญ่ ซึ่งแรกๆทุกคนก็ต้องมีกลัวๆกันบ้างแหละคิดว่านะ 55555 แต่เรียนไปก็คงจะชินเอง ส่วนวิชาที่เรียนก็จะเรียนจำพวก ระบบร่างกาย เช่น ระบบปราสาท ระบบไหลเวียนเลือด กายวิภาค สรีรวิทยา พันธุศาสตร์ เป็นต้น
ปี 3 ความผิดปกติของร่างกาย
นักศึกษาแพทย์จะเรียนรู้เกี่ยวกับสิ่งที่ทำให้ร่างกายอ่อนแอ หรือผิดปกติไป ก็คือ จะเรียนในเรื่อง หลักภูมิคุ้มกันวิทยา ปรสิตวิทยา พยาธิทั่วไป เวชศาสตร์ชุมชนแล้วก็เภสัชวิทยาแบบพื้นฐานค่ะ
ปี 4 การก้าวไปสู่การทำงานชั้นคลินิก
ปีนี้เห็นเขาบอกกันว่า พวกพี่ๆจะเริ่มเรียนรู้การปฏิบัติงาน โดยการตรวจคนไข้จริงๆ ที่โรงพยาบาลกันแล้ว โดยไม่มีการปิดเทอมเลย พวกพี่ๆเขาจะทำงานวนไปตามวอร์ดต่างๆจนครบ แน่นอนว่าจะต้องนอนดึกตื่นเช้าแน่ อิอิอิอิ
ปี 5 ก้าวสู่การลงมือ
ปีนี้เกือบจบแล้ว เย้ๆๆ !!!!!! ใกล้จบแล้วมันก็ต้องฮาร์ดคอร์กันหน่อย5555 ก็คือ พี่ๆรุ่นนี้อาจจะมาถึงวอร์ดตอนตี 4 จากที่เคยมาตอนปี 4 คือ 7 โมงเช้า แล้วอาจจะทำงานจนโต้รุ่งถึงอีกวันก็ได้ ซึ่งพี่ๆเขาจะมีส่วนร่วมที่มากขึ้นในการทำงาน เช่น วินิจฉัยร่วมกับอาจารย์ เย็บแผล ช่วยทำคลอด แล้วอย่าลืม ต้องจดเล็คเชอร์ด้วยนะ 55555
ปี 6 ช่วงชีวิต EXTERN
นี้คือ จบแล้ว OMG!!!!!! 555555 พี่ๆรุ่นนี้ ก็จะสามารถรักษาคนไข้ได้แล้วหลังจากที่เรียนมา 5 ปี และก็จะมีการออกไปเป็นหมอในโรงพยาบาลต่างจังหวัดด้วย
และนี่นะค่ะก็คือข้อมูลที่เรารวบรวมมาให้เพื่อนๆได้ศึกษากัน เพื่อเป็นการเตรียมตัวให้กับตัวเองในการสอบเข้ามหาวิทยาลัยอีกด้วย สุดท้ายนี้ ก็ขอให้เพื่อนๆทุกคนโชคดี เข้ามหาวิทยาลัยที่ตัวเองต้องการได้น่ะค่ะ สู้ๆ
4. จบแล้วทำงานด้านไหน
สำหรับเปียนะค่ะก็เคยสงสัยว่า
พี่ๆที่เรียนจบหมอแล้วเนี่ยจะทำงานเกี่ยวกับด้านนี้ไปเลยไหม
แต่ก็มีบางคนนะค่ะที่ออกมาทำงานเกี่ยวกับธุรกิจส่วนตัว เช่น
ช่วยคุณพ่อคุณแม่ทำกิจการส่วนตัวค่ะ
แต่ส่วนใหญ่แล้วพี่ๆเขาก็จะทำงานเกี่ยวกับด้านการแพทย์ไปเลยค่ะ
เนื่องจากเราตัดสินใจที่จะเรียนไปแล้ว ร่วมกับอาชีพนี้ใช้เวลาในการศึกษาค่อนข้างนานค่ะ
จะมีส่วนน้อยที่ออกมาจากวงการแพทย์มาทำกิจการส่วนตัว หรืออาจมีอีกประเภทค่ะ
ที่ทำอาชีพแพทย์ไปพร้อมๆกับอาชีพอื่นๆเช่น หมอก้อง สรวิชญ์ สุบุญ ซึ่งเป็นแพทย์ทหาร
พร้อมกับเป็นดารานักแสดงด้วยค่ะ จึงสามารถสรุปได้ว่า
1.
ประกอบอาชีพแพทย์โดยตรง
2. กลับไปช่วยกิจการของครอบครัวหรือกลับไปประกอบกิจการเอง
โดยไม่เกี่ยวข้องด้านการแพทย์อีก
3.
ประกอบอาชีพแพทย์ไปพร้อมๆกับอาชีพที่ตนเองชอบ
5. ประวัติผู้จัดทำ
ประวัติของผู้จัดทำ
ชื่อ
นางสาวก้อนทอง นามสกุล แก้วพิลา
เลขที่
10 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5/2
ชื่อเล่น
เปีย อายุ 17 ปี
ศึกษาที่
โรงเรียนดอนเมืองทหารอากาศบำรุง




















